ประวัติ และความเป็นมาของดนตรีหมอลำ อีกหนึ่งศิลปะที่มีคุณค่า

หมอลำ

ะความเป็นมาของฃดนตรีหมอลำ

ศิลปะการ “ลำ” นั้นมีการแสดงพื้นเมืองที่พบได้ในภาคอีสานของประเทศไทย ซึ่งกว่าจะกลายมาเป็นหมอลำอย่างทุกวันนี้ ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายช่วงยุคสมัย การลำในสมัยก่อนนั้นเป็นการนำเสนอเนื้อหาของนิทานพื้นบ้านที่แพร่หลายในอดีต อย่างเช่นเรื่องการะเกด และนางแตงอ่อน โดยในยุคนั้นจะมีหมอลำเพียง 1 กับ คนเป่าแคน 1 คน (เรียกว่าหมอแคน)

ต่อมาได้เพิ่มมาเป็น 2 คน อาจจะเป็น ชายคู่กับชาย หรือ ชายคู่กับหญิงก็ได้ ภายหลังได้มีการยกเลิกการลำชายกับชาย จึงเหลือแต่การแสดงหมอลำของชายกับหญิง ที่สืบทอดต่อมาจนถึงยุคปัจุบันนี้ รูปแบบของการลำยังคงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ครั้งนี้จากการลำเพียงไงไม่กี่คน เพิ่มขึ้นมาเป็นการ “ลำหมู่” หรือเรียกว่า “หมอลำหมู่” ประกอบไปด้วยสมาชิกกว่า 10 คน จึงเกิดการตั้งคณะหมอลำขึ้น โดยคณะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคปี พ.ศ. 2506 คือ “รังสิมันต์” เป็นคณะหมอลำประจำจังหวัดอุบลราชธานี

ประเภทของการลำแต่ละแบบ

หมอลำ
ะความเป็นมาของฃดนตรีหมอ
  1. 1.ลำแบบโบราณ เป็นการลำประกอบทิทานสมัยก่อน โดยผู้ใหญ่ในสมัยก่อนมักจะชื่นชอบเป็นอย่างมาก มันไม่มีท่าที่ตายตัวเหมือนกับการลำในปัจจุบัน หรือแม้แต่ดนตรีประกอบก็ไม่มี ขึ้นอยู่กับตัวผู้ลำเองว่าจะใช้ท่าทางแบบไหน
  2. 2.ลำคู่ เป็นการลำแบบคู่ชายกับหญิง ใช้แคนเป็นเครื่องดนตรีประกอบหลัก ลำที่ได้รับความนิยมคือ “ลำทวย” เป็นการลำที่จะต้องตอบปัญหาทายโจทย์ของฝ่ายตรงข้าม
  3. 3.ลำกลอน เป็นการลำที่คล้ายกับลำคู่ แต่จะมีจำนวนคนเพิ่มมาอีก 1 คน ซึ่งคนที่เพิ่มมาอาจจะเป็นชาย หรือเป็นหญิงก็ได้ นิยมเล่นเรื่องรักสามเศร้าอย่าง “ลำชิงชู้”
  4. 4.ลำหมู่ เป็นรูปแบบการลำที่เน้นจำนวนคนแสดง เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการรับชม มีเครื่องดนตรีประกอบหลายชนิด จนกระทั่งมีดนตรีลูกทุ่งเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้วงดนตรีหมอลำต้องประยุกต์เปลี่ยนมาเป็น “ลำเพลิน” เป็นการจำดนตรีของลูกทุ่งมาใช้ ช่วยเพิ่มความคึกครื้นให้กับการแสดงกลับมาฮิตอยู่ช่วงหนึ่ง
  5. 5.ลำซิ่ง เมื่อหมอไม่ค่อยได้รับความนิยมอย่างที่เคย เพราะมีดนตรีสมัยใหม่เข้ามาเผยแพร่ ทำให้ผู้คนเริ่มล้มหายตายจากปล่อยให้วงการหมอลำเกือบตายไปในที่สุด แต่แล้วก็เกิดความคิดสร้างสรรค์ ในการรูปแบบการลำแบบ “หมอลำซิ่ง” ด้วยการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย โดยนำเอาเครื่องดนตรีสมัยใหม่มาใช้ประกอบเพลง ทำให้วงการหมอลำกลับมาเฟืองฟูอีกครั้ง เขาถึงกับกล่าวเอาไว้ว่า “หมอลำนั้นไม่มีวันตาย”